Category Archives: สะท้อน bible

○ ข้อคิด บทเรียนที่ข้าพเจ้าได้รับจากพระคัมภีร์

บทเรียนในการเร่งเร้าเอาในสิ่งที่ไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า

กดว.11:4-35 นกคุ่ม 4คนที่ปะ‌ปนมากับเขาทั้งหลายเป็นพวกที่มีความอยากกินเป็นอย่างมาก และคนอิส‍รา‍เอลก็ร้องไห้คร่ำครวญอีกด้วยว่า “ใครจะให้เนื้อเรากิน? 5เราคิดถึงปลาที่เราเคยกินโดยไม่ต้องซื้อในอียิปต์ อีกทั้งแตง‌กวา แตง‌โม กระ‍เทียมจีน หอม‌ใหญ่ หัวกระ‍เทียม 6บัดนี้จิตใจของเราก็ห่อเหี่ยว เราไม่เห็นอะไรเลยนอกจากมานานี้” 7(มานานั้นเหมือนเมล็ดผักชี สีของมันเหมือนยางไม้ตะคร้ำ 8ประ‍ชา‌ชนจะออกไปเก็บมาโม่ด้วยหินโม่หรือตำในครก และใส่หม้อต้มทำขนม รสของมานาเหมือนรสของขนมคลุก‌เคล้าด้วยน้ำมัน 9เมื่อน้ำค้างตกลงมาเหนือค่ายตอนกลาง‌คืน มานาก็จะตกลงมากับน้ำค้างด้วย) 10เมื่อโมเสสได้ยินประ‍ชา‌ชนร้องไห้กันไปทั่วตระ‍กูลต่างๆ โดยแต่ละคนอยู่ที่ประตูเต็นท์ของตน และพระ‌ยาห์‍เวห์กริ้วอย่างยิ่ง โมเสสก็ไม่พอใจด้วย 11โมเสสจึงกราบทูลพระ‌ยาห์‍เวห์ว่า “ทำไมพระ‌องค์จึงทรงให้ผู้รับใช้ของพระ‌องค์ลำบากเช่นนี้? ทำไมข้าพระ‌องค์จึงไม่เป็นที่โปรด‍ปรานต่อพระ‌องค์? พระ‌องค์จึงทรงวางภาระเรื่องประ‍ชาชนทั้งหมดนี้ลงบนข้าพระ‌องค์ 12ข้าพระ‌องค์ตั้งครรภ์คนพวกนี้มาหรือ? ข้าพระ‌องค์คลอดคนพวกนี้หรือ? พระ‌องค์จึงตรัสกับข้าพระ‌องค์ว่า ‘จงโอบอุ้มเขาทั้งหลายไว้ในอกของเจ้าเหมือนพี่เลี้ยงโอบอุ้มเด็กทารก และนำไปยังแผ่นดินที่พระ‌องค์ทรงปฏิ‍ญาณต่อบรรพ‍บุรุษของเขา’ 13ข้าพระ‌องค์จะหาเนื้อจากไหนมาให้แก่คนทั้งหมดนี้? เพราะพวกเขาร้องไห้ต่อข้าพระ‌องค์ว่า ‘ขอเนื้อให้เรากิน’ 14ข้าพระ‌องค์ไม่สามารถโอบอุ้มคนเหล่านี้แต่ลำพังเพราะเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับข้าพระ‌องค์ 15ถ้าพระ‌องค์จะทรงทำต่อข้าพระ‌องค์เช่นนี้ และถ้าข้าพระ‌องค์เป็นที่โปรดปราน ก็ขอทรงประ‍หารข้าพระ‌องค์ทันทีเถิด ขออย่าให้ข้าพระ‌องค์เห็นความทุกข์ยากของข้าพระ‌องค์เลย” ผู้ใหญ่เจ็ดสิบคน 16พระ‌ยาห์‍เวห์ตรัสกับโมเสสว่า “จงรวบรวมพวกผู้ใหญ่ในอิส‍รา‍เอลให้เราเจ็ดสิบคน เป็นคนที่เจ้ารู้ว่าเป็นผู้ใหญ่ของประ‍ชา‌ชนและเป็นเจ้าหน้าที่ของเขาทั้งหลาย จงพาพวกเขามาที่เต็นท์นัดพบและให้ยืนอยู่พร้อมกับเจ้าที่นั่น 17เราจะลงมาสนทนากับเจ้าที่นั่น และเราจะเอาจากวิญ‍ญาณที่มีอยู่บนเจ้ามาใส่บนคนเหล่านั้นด้วย และให้เขาทั้งหลายแบกภาระของประ‍ชา‌ชนเหล่านี้ร่วมกับเจ้า เพื่อเจ้าจะไม่ต้องแบกคนเดียว 18และจงกล่าวกับประ‍ชา‌ชนว่า ‘ให้พวกท่านชำระตัวให้บริ‍สุทธิ์ในวันพรุ่งนี้ และท่านจะได้รับประ‍ทานเนื้อเพราะพวกท่านร้องไห้ต่อพระ‌กรรณของพระ‌ยาห์‍เวห์ว่า “ใครจะทำให้เรามีเนื้อกิน? เมื่ออยู่ในอียิปต์เราก็สุขสบาย”… Read More »

หนึ่งเดียว…ที่เหลืออยู่

ในพระคริสต์ธรรม ลูกา.บทที่ 17:ข้อ 17 ฝ่าย พระเยซูตรัสว่า “มีสิบคนหายสะอาดมิใช่หรือ แต่เก้าคนนั้นอยู่ที่ไหน” ตอนนั้น พระเยซู รักษาคนโรคเรื้อนทั้ง 10 คนโดยให้เขาไปรายงานตัวต่อปุโรหิตระหว่างทางที่ทั้ง 10 คนกำลังเดินทางไปนั้นเขาหายโรค 1 ใน 10 คนนั้นหันหลังกลับมาหา พระเยซู เพื่อจะสรรเสริญที่ทรงรักษาโรคที่เขาทนทุกข์ทรมาน เป็นที่รังเกียจของชาวบ้าน และโรคนั้นกัดกินเนื้อหนังของเขา … เขากลับมาเพื่อบอกให้ พระเยซู รู้ว่าเขาหายโรคนั้นแล้วเพราะพระเมตตาของพระองค์ ส่วนคนที่เหลือไม่มีใครปรากฏตัวต่อหน้า พระเยซู อีกเลย พระเยซู ถามชายผู้นั้นว่า มีแค่คนเดียวหรอที่กลับมา ส่วนที่เหลือหายไปไหน?? น่าแปลกใจจัง!!! ทำไม??? พระเยซู ถึงถามเช่นนั้น (ก็เห็นอยู่แล้วว่ากลับมาเพียงคนเดียว ไม่ใช่เพราะหายโรคแค่คนเดียวนะทั้ง 10 คนหายสนิทเหมือนกัน แต่มีเพียงคนเดียวที่เลือกจะกลับมาหาพระองค์) พระองค์น้อยใจหรอ??? ก็พระองค์บอกเองนี่นา…ว่าให้เขาไปรายงานตัวต่อปุโรหิต >> นี่ไงพวกเขาก็ไปแล้ว แต่มีคนหนึ่งที่ดูเหมือนไม่ได้ทำตามที่ พระเยซู บอกแต่ได้หันกลับมาหาพระองค์เพื่อสรรเสริญพระองค์ แล้วทำไมเขาจึงเป็นคนที่ พระเยซู ตรัสกับเขาอย่างพออกพอใจเสียเหลือเกิน…. **เพราะชายผู้นั้นเล็งเห็นถึงคุณค่าและรู้ว่าผู้ใดที่ทำให้เขาหายโรคอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพราะเขาต้องไปรายงานตัวต่อปุโรหิตเขาจึงหายโรค… Read More »

ความต่างระหว่างหญิงสาว 2 คน

มีหญิงสาว 2 คนที่เป็นที่โดดเด่นในพระคัมภีร์ เธอทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน คนพี่ชื่อมารธา คนน้องชื่อมารีย์ ทั้ง 2 ต่างก็เป็นคนที่รักพระเยซูเช่นกัน ไม่ต่างกัน แต่มีบางสิ่งที่ต่างกันเล็กน้อย # มารธา >> ผู้เป็นพี่เลือกที่จะปรนนิบัติและแสดงออกซึ่งความรักต่อพระเยซูด้วยการจัดหาและจัดเตรียมอาหารชั้นเลิศเพื่อต้อนรับบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา แต่เธอกลับยุ่งเกินไป จนกระทั่งเธอไม่มีแม้แต่เวลาสักเสี้ยวนึงในการพูดคุยหรือสนทนากับพระองค์ ในขณะที่พระองค์ได้เข้ามาในบ้านของเธอเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว เวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งเธอรู้สึกได้ว่าเธอเหนื่อยเหลือเกิน จึงได้กล่าวกับพระเยซูว่า ….”พระองค์โปรดบอกให้น้องสาวมาช่วยข้าพระองค์หน่อย” # มารีย์ >> ส่วนหญิงคนนี้กลับเลือกตรงข้ามเธอทำทุกสิ่งก่อนที่พระเยซูเสด็จเข้ามาเพื่อเตรียมการต้อนรับ แต่ทันทีที่พระองค์ก้าวเข้ามาในบ้าน เธอหยุดทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่และนั่งอยู่แทบพระบาทของพระเยซู เพื่อปรนนิบัติและสนทนากับพระองค์ 2 สาว ที่รักพระเยซูเสียเหลือเกินไม่ต่างกัน แต่กลับเลือกที่ต่างกัน แล้วเหตุใดพระเยซูจึงโปรดสิ่งที่มารีย์ทำมากกว่ากัน?? ข้อคิดสะกิดใจ # เป็นการดีที่เราแต่ละคนเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆ เพื่อคนที่เรารักแต่หากการกระทำนั้นๆ ปราศจากซึ่งความสัมพันธ์ที่แนบสนิทแล้วหละก็ การกระทำนั้นก็เหนื่อยเปล่า เพราะมันถูกบั่นทอนด้วยปริมาณงาน และไม่ได้รับการเติมเต็มให้ชื่นใจ ถ้าเช่นนนั้นเราแต่ละคนจะทำได้นานสักแค่ไหนกันเชียว หรือมากแค่ไหนเชียว…คำตอบคือ มากเท่าที่แรเราจะทำได้ ดังที่มารธาเป็น …. # หากแต่สิ่งที่มารีย์เลือกคือ รู้จักจัดสรรเวลาเป็นอย่างดี เขารู้จักที่จะเลือกว่าเขาจะทำสิ่งใดก่อนสิ่งใดหลัง และในเวลานั้นๆ เขาจะต้องทำสิ่งใดจึงเกิดผลดีมากที่สุด #… Read More »