การตัดสินของปีลาต

By | 2015/07/09

บางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตัดสินพิพากษาได้ โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องรับบทบาทหน้าที่ หรือมีตำแหน่งที่ต้องจัดการสิ่งต่างๆ ในโลก ในคริสตจักร ในองค์กร หรือแม้แต่ในครอบครัว

แต่เนื่องจากหลักการพระคัมภีร์บอกว่า อย่าตัดสินผู้อื่น เพราะผู้ที่มีสิทธินั้นคือองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่นามเดียว แต่ในขณะเดียวกันพระคัมภีร์ก็ยกตัวอย่างของบุคคลที่มีบทบาหน้าที่และตำแหน่งนั้น เช่น กษัตริย์ ผู้นำ เจ้าเมือง

– โมเสส >> ในการแบ่งคนตามพ่อตาแนะนำ

อพย.18:14-26
18:14 และเมื่อพ่อตาของโมเสสเห็นงานทั้งปวงที่โมเสสกระทำเพื่อประชากรนั้น ท่านจึงพูดว่า “นี่ท่านใช้วิธีอะไรปฏิบัติกับประชากรเล่า เหตุไรท่านจึงนั่งตัดสินความอยู่แต่ผู้เดียว และประชากรทั้งปวงก็ยืนห้อมล้อมท่านตั้งแต่เช้าจนเย็น”
18:15 และโมเสสได้พูดกับพ่อตาของตนว่า “เพราะประชากรมาหาข้าพเจ้า เพื่อขอให้ทูลถามพระเจ้า
18:16 เมื่อพวกเขามีข้อโต้เถียงกันใด ๆ พวกเขาก็มาหาข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ตัดสินความระหว่างเขาทั้งสองฝ่าย และข้าพเจ้าสอนพวกเขาให้รู้จักกฎเกณฑ์ทั้งหลายของพระเจ้าและพระราชบัญญัติต่าง ๆ ของพระองค์”
18:17 และพ่อตาของโมเสสได้พูดกับท่านว่า “วิธีการที่ท่านกระทำอย่างนี้ยังไม่ดี
18:18 ท่านจะอ่อนระอาใจเป็นแน่ ทั้งท่านและประชากรที่อยู่กับท่าน เพราะวิธีการนี้เหลือกำลังของท่าน ท่านไม่สามารถที่จะกระทำแต่ผู้เดียวได้
18:19 บัดนี้ ขอฟังเสียงของเราบ้าง เราจะให้คำแนะนำแก่ท่าน และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับท่าน ท่านจงเป็นผู้แทนของประชากรต่อพระเจ้า เพื่อท่านจะนำความเหล่านั้นกราบทูลพระเจ้า
18:20 และท่านจงสอนพวกเขาให้รู้จักกฎทั้งหลายและพระราชบัญญัติต่าง ๆ และจงแสดงให้พวกเขารู้จักทางที่พวกเขาต้องดำเนินชีวิตและกิจการต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องกระทำ
18:21 ยิ่งกว่านั้น ท่านจงเลือกคนที่มีความสามารถจากพวกประชากร คือคนที่เกรงกลัวพระเจ้า ไว้ใจได้และเกลียดสินบน และแต่งตั้งคนอย่างนี้ไว้เหนือประชากร เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนร้อยคนบ้าง เป็นผู้ปกครองคนห้าสิบคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนสิบคนบ้าง
18:22 และให้พวกเขาตัดสินความของประชากรอยู่เสมอ และต่อมาบรรดาคดีใหญ่ ๆ ก็ให้พวกเขานำมาแจ้งต่อท่าน แต่บรรดาคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พวกเขาตัดสินเอง ดังนั้น การงานของท่านจะเบาลง และพวกเขาจะแบกภาระร่วมกับท่าน
18:23 ถ้าท่านทำดังนี้และพระเจ้าทรงบัญชาท่านแล้ว ดังนั้น ท่านก็จะสามารถทนอยู่ได้ และประชากรทั้งปวงนี้ก็จะไปยังที่อาศัยของพวกเขาด้วยความสงบสุข”
18:24 ดังนั้น โมเสสก็ฟังเสียงของพ่อตาของตน และทำตามที่ท่านบอกกล่าวทุกประการ
18:25 และโมเสสได้เลือกคนที่มีความสามารถจากคนอิสราเอลทั้งปวง และตั้งพวกเขาให้เป็นหัวหน้าประชากร เป็นผู้ปกครองคนพันคนบ้าง เป็นผู้ปกครองคนร้อยคนบ้าง เป็นผู้ปกครองคนห้าสิบคนบ้าง และเป็นผู้ปกครองคนสิบคนบ้าง
18:26 และคนเหล่านั้นตัดสินความของประชากรอยู่เสมอ บรรดาคดียาก ๆ พวกเขานำไปแจ้งต่อโมเสส แต่บรรดาคดีเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเขาตัดสินเอง

– ซาโลม่อน >> ในการตัดสินคดีความ

1 พกษ.3:23-28
3:23 แล้วกษัตริย์ตรัสว่า “คนหนึ่งพูดว่า ‘คนนี้เป็นบุตรชายของฉัน คือเด็กที่เป็นอยู่ และบุตรชายของเจ้าตายเสียแล้ว’ และอีกคนหนึ่งพูดว่า ‘ไม่ใช่ แต่บุตรชายของเจ้าตายเสียแล้ว และบุตรชายของฉันเป็นคนที่มีชีวิต’”
3:24 และกษัตริย์ตรัสว่า “เอาดาบมาให้เราเล่มหนึ่ง” เขาจึงเอาดาบมาไว้ต่อพระพักตร์กษัตริย์
3:25 และกษัตริย์ตรัสว่า “จงแบ่งเด็กที่มีชีวิตนั้นออกเป็นสองท่อน และให้คนหนึ่งครึ่งหนึ่ง และอีกคนหนึ่งครึ่งหนึ่ง”
3:26 แล้วหญิงคนที่บุตรของตนยังมีชีวิตอยู่นั้นทูลกษัตริย์ เพราะว่าจิตใจของเธออาลัยในบุตรชายของเธอ เธอว่า “โอ ข้าแต่เจ้านายของข้าพระองค์ ขอทรงมอบเด็กที่มีชีวิตนั้นให้เขาไป และถึงอย่างไรก็ดีอย่าทรงฆ่าเสีย” แต่หญิงอีกคนหนึ่งว่า “อย่าให้เด็กนี่เป็นของฉันหรือของเจ้าเลย แต่แบ่งเด็กออกเป็นสองท่อนเถิด”
3:27 แล้วกษัตริย์ตรัสตอบเขาว่า “จงให้เด็กที่มีชีวิตนั้นแก่คนนั้น อย่าฆ่าเสียเลย นางเป็นมารดาของเด็กนั้น”
3:28 อิสราเอลทั้งปวงได้ยินเรื่องการพิพากษา ซึ่งกษัตริย์ประทานการพิพากษานั้น และเขาทั้งหลายก็เกรงกลัวกษัตริย์ เพราะเขาทั้งหลายประจักษ์ว่า พระสติปัญญาของพระเจ้าอยู่ในพระองค์ที่จะทรงวินิจฉัย

– อัครทูต >> ในการตัดสินเรื่องเข้าสุหนัต
.
.
.

และในขณะเดียวกันพระคัมภีร์ก็ได้ยกตัวอย่างของบุคคลที่มีสิทธิอำนาจนั้น แต่ใช้ในทางที่ผิด ทางที่ไม่ชอบ
– ลูกอาโรน ปุโรหิต ใช้อำนาจเพื่อความอยากของตนเอง
– กษัตริย์อิสราเอลนำชนชาติให้ทำบาป
– ปีลาตสั่งตรึงพระเยซู

มธ.27:15-26
27:15 ในเทศกาลเลี้ยงนั้น เจ้าเมืองเคยปล่อยนักโทษคนหนึ่งให้แก่หมู่ชนตามใจชอบ
27:16 คราวนั้นพวกเขามีนักโทษสำคัญคนหนึ่งชื่อบารับบัส
27:17 เหตุฉะนั้นเมื่อคนทั้งปวงชุมนุมกันแล้ว ปีลาตได้ถามเขาว่า “เจ้าทั้งหลายปรารถนาให้ข้าพเจ้าปล่อยผู้ใดแก่เจ้า บารับบัสหรือพระเยซูที่เรียกว่า พระคริสต์”
27:18 เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าเขาได้มอบพระองค์ไว้ด้วยความอิจฉา
27:19 ขณะเมื่อปีลาตนั่งบัลลังก์พิพากษาอยู่นั้น ภรรยาของท่านได้ใช้คนมาเรียนท่านว่า “ท่านอย่าพัวพันกับเรื่องของคนชอบธรรมนั้นเลย ด้วยว่าวันนี้ดิฉันทุกข์ใจหลายประการกับความฝันเกี่ยวกับท่านผู้นั้น”
27:20 ฝ่ายพวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้ใหญ่ก็ยุยงหมู่ชนขอให้ปล่อยบารับบัส และให้ประหารพระเยซูเสีย
27:21 เจ้าเมืองจึงถามเขาว่า “ในสองคนนี้เจ้าจะให้เราปล่อยคนไหนให้แก่เจ้า” เขาตอบว่า “บารับบัส”
27:22 ปีลาตจึงถามพวกเขาว่า “ถ้าอย่างนั้น เราจะทำอย่างไรแก่พระเยซูที่เรียกว่า พระคริสต์” เขาพากันร้องแก่ท่านว่า “ให้ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
27:23 เจ้าเมืองถามว่า “ตรึงทำไม เขาได้ทำผิดประการใด” แต่เขาทั้งหลายยิ่งร้องว่า “ให้ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
27:24 เมื่อปีลาตเห็นว่าไม่ได้การมีแต่จะเกิดวุ่นวายขึ้น ท่านก็เอาน้ำล้างมือต่อหน้าหมู่ชน แล้วว่า “เราไม่มีผิดด้วยเรื่องโลหิตของคนชอบธรรมคนนี้ เจ้ารับธุระเอาเองเถิด”
27:25 บรรดาหมู่ชนเรียนว่า “ให้โลหิตของเขาตกอยู่แก่เราทั้งบุตรของเราเถิด”
27:26 ท่านจึงปล่อยบารับบัสให้เขา และเมื่อท่านได้โบยตีพระเยซูแล้ว ท่านก็มอบพระองค์ให้ถูกตรึงที่กางเขน

ปีลาตมีสิทธิอำนาจอยู่ในมือ แต่ใช้สิทธิอำนาจนั้นในการตัดสิน เอาความผู้บริสุทธิ์ให้ถึงตาย เนื่องจาก

1. ฟังเสียงข้างมาก กระแสที่กระตุ้น ทำให้คิดมากถึงผลประโยชน์และผลกระทบที่จะมาถึงตน มากกว่า น้ำพระทัยพระเจ้า

2. ไม่มีหลักการ หรือพระวจนะรองรับ ไม่มีการฟังเสียงและแสวงหาคำตอบจากพระเจ้า … แต่ปล่อยตัวไปตามสิ่งที่กระตุ้นเร้า เหตุผล และข้ออ้าง ของโลก ระบบ และทัศนคติของคนส่วนมาก หรือสิ่งที่ดูเหมือนมีน้ำหนัก จนลืมมุมมองพระคำ

3. ไม่สนใจแผนการณ์พระเจ้า อาณาจักรพระเจ้า หรือสิ่งที่พระเจ้าทำ

4. ทุกสิ่ง ทุกเรื่อง คือ ระบบ … ตัดสินเป็นรูปแบบเดียวกัน ไม่มีการคิดหรือไตร่ตรองแบบเจาะจงแต่ละเรื่อง แต่ละรายละเอียด

 

การตัดสินของปีลาต

 

1. หากพระเจ้าเจิมแต่งตั้งให้เราอยู่ในบทบาทของผู้ตัดสิน สิ่งที่ยิ่งต้องควรระวังและตระหนักอย่างยิ่งคือ น้ำพระทัยและหัวใจของพระบิดา

– แสวงหาคำตอบจากพระเจ้า เนื่องจากตำแหน่งและบทบาทของผู้ตัดสินเป็นของพระเจ้า แต่ในระบอบของโลก เสมือนกำลังยืนในจุดเดียวกันกับพระบิดา การแสวงหาคำตอบจากพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มีความเป็นตัวเราน้อยที่สุด แต่สวมทับหัวใจพระบิดาแทนที่

– อย่าให้ระบบที่มนุษย์ตั้งขึ้น องค์กรกำหนดขึ้น ขนบประเพณี วัฒนธรรมกำหนด…. เพราะบางเรื่องโดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ใช่ระบบ แต่เป็นการทรงนำของพระเจ้า ไม่สามารถใช้ข้อกำหนดกฎเกณฑ์มาตัดสินได้

– ให้โอกาส…>>… การให้โอกาสเป็นการเปิดทางออก เผื่อว่าข้อมูลหรือทัศนคติของผู้ตัดสินโอนเอนหรือผิดพลาด … การให้โอกาสทำให้เกิดความรอบคอบอีกครั้ง เป็นการชะลอการเร่งตัดสินความ แต่ใคร่ครวญและไต่สวนซ้ำๆ จนค้นพบทางที่ดีที่สุด เหมาะที่สุด กับทุกฝ่าย

2. หากพระเจ้าไม่ได้ตั้งให้เราอยู่ในบทบาท หรือตำแหน่งของการตัดสิน ก็เป็นการปลอดภัยในความไม่ผิดพลาดเรื่องนี้ ดังนั้น อย่าพยายามทำตัวเป็นผู้ตัดสิน หรืออยากตัดสินผู้อื่น ด้วยว่าไม่มีสิทธิโดยสมบูรณ์แบบทั้งทางโลกและทางธรรม

 

 

11/08/2014 13:00

 

 

 

0Shares