Tag Archives: พระเยซูนำหน้า

เชื่อจนสุดปลายทาง

ความเชื่อเป็นรากฐานและเป็นเสมือนสิ่งที่เคียงคู่ตลอดเส้นทางการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า แต่หลายครั้งความเชื่อกลับเป็นเรื่องที่ยากจะทำ และยากที่จะไปถึง… การมีความเชื่อ ไม่เพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น คนมากมายเริ่มต้นด้วยความเชื่อ และมันค่อยๆ ลดขนาดลงด้วยปัญหาอุปสรรคและสิ่งที่ล่อหลอกให้จดจ่อ แทนที่พระพักตร์และพระสัญญาพระเจ้า.. สถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่เป็นใจ ไม่ได้ดั่งใจ ทุกสิ่งดูเร่งเร้า แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ช้าเกินไปสำหรับใจเรา คือ สิ่งที่พระเจ้าทำ… ความเชื่อในระยะเริ่มต้นลดลงอย่างวูบวาบ จนหลายครั้งไม่เหลือความเชื่อเลยด้วยซ้ำ บางครั้งอาจถึงขนาดละทิ้งแล้วที่พระเจ้าตรัสไว้ เพราะคิดว่ามองดูและพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ตามที่พระเจ้าทรงตรัสเลย … กระบวนการทุ่มและกระโดดตัวเองเข้าสู่วิถีการคิดค้นงัดแงะแผนการณ์ของมนุษย์ได้เกิดขึ้นเป็นระรอกๆ …แต่หาได้รับคำตอบไม่!! …หาได้เป็นทางออกที่ดีไม่!! …แต่กลับบานปลายออกไปเรื่อยๆ … แท้จริงอะไรคือความผิดพลาดหรือ? อะไรคือสิ่งที่ต้องเข้าใจและเรียนรู้หรือ? อะไรกันแน่ที่จะสามารถนำพระพรมาถึงตัวเราจริงๆ? การเริ่มต้นด้วยความเชื่อเป็นเรื่องยากแล้ว… แต่มันกลับเป็นเรื่องที่ง่ายดายไปเลย หากเทียบกับการรักษาความเชื่อจนสุดปลายทาง…. ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเริ่มต้นด้วยความเชื่อ หากเรารับบางสิ่งจากพระเจ้า >> เสียงตรัส ถ้อยคำสำแดง การดลใจ หรือแรงบันดาลใจก็ตาม… แต่ระหว่างทางใช่ว่าจะราบเรียบและรวดเร็วดั่งใจนึกเสมอไป อันเนื่องจากพระเจ้ามีพระประสงค์ชัดเจนในการสร้างความเชื่อที่มากขึ้นภายในตัวเราเอง การพัฒนาความเชื่อ เป็นปกติวิถีของคริสเตียน และผู้ที่รักจะเดินติดตามพระเจ้า … ดังนั้นการที่พระเจ้าจะพัฒนาความเชื่อภายในเป็นการเจาะจงส่วนตัวกับเราจึงไม่ใช่เรื่องแปลก*** สาเหตุที่ทำให้เราขาดความเชื่อหรือสั่นคลอนในความเชื่อระหว่างทาง 1.    รอนานเกินไป การรอคอยทำให้เกิดความคาดหวัง และปกติมนุษย์ปรารถนาการช่วยกู้และปรารถนาพระพรให้มาอย่างเร็วไว ในเวลาที่ตนเองคิดและกะเกณฑ์แผนไว้ในสมอง …  แต่เมื่อผิดไปจากแผนของตน ผิดไปจากระยะเวลาที่ตนคำนวน… Read More »

สวรรค์ : จงไปต่อ ก้าวต่อไป

 “ต่อแต่นี้จงลุกขึ้นเดินและก้าวไปข้างหน้า หลังจากได้พักแล้ว (3 อาทิตย์นับจากการเยี่ยมเยียนของพระเจ้า) บัดนี้ถึงเวลาออกมาแล้ว เราจะนำเจ้าออกมาเอง จงก้าวออกมาเถิด เพราะบัดนี้เป็นเวลาที่เราจะทำในเจ้าต่อไปแล้ว” พระวิญญาณบริสุทธิ์ตรัสกับข้าพเจ้าอย่างชัดเจน ข้าพเจ้าถามพระองค์ว่า “จะให้ข้าพระองค์ไปอย่างไร อย่างอับราฮัมหรือ? ที่ก้าวทันทีที่พระองค์ทรงเรียกโดยที่ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าเป็นอย่างไร? หรือจะให้ก้าวแบบไหนคะ?” พระเจ้าทรงตรัสตอบว่า “เราจะนำเจ้าออกมาเอง เจ้าต้องเดินตามเรามา” ในขณะนั้นเองพระเยซูทรงปรากฏต่อข้าพเจ้าเป็นนิมิตที่เห็นกับตา… พระเยซูทรงเรียกขณะที่ข้าพเจ้านั่งคุกเข่าอยู่ในห้องนอนของตัวเอง ทรงยื่นมือมาแตะที่ไหล่ขวาด้านหลัง แล้วทรงตรัสว่า “ลูกเอ๋ยลุกขึ้นเถิด ไปกับเรา และตามเรามา” ทรงมองด้วยความอ่อนโยนและยิ้มให้ด้วยความอบอุ่นอย่างเคย พร้อมพยักหน้าเมื่อทรงตรัสเสร็จ แล้วก็ทรงเดินนำหน้าไป ข้าพเจ้ารีบลุกขึ้นทันทีเดินตามพระองค์ไป และเร่งฝีเท้าให้ทันพระองค์พร้อมทั้งยื่นมือของตัวเองออกไปจับพระหัตถ์พระเยซูเสมือนเด็กน้อยที่กำลังวิ่งตามให้ทันพ่อ ภายในของข้าพเจ้าทั้งตื่นเต้นและกลัวจะพลาดไปจากพระองค์ มือของข้าพเจ้าจับมือพระองค์ไว้แน่น  พยายามเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นๆ กึ่งวิ่งกึ่งเดิน เพื่อที่จะก้าวให้ทันพระเยซู ในขณะที่ทรงก้าวอย่างช้าๆ สบายๆ … เราทั้ง 2 กำลังเดินมุ่งไปข้างหน้า … ทรงทอดพระเนตรมองดูข้าพเจ้าเดินและตรัสว่า “เราจะอยู่กับเจ้า เราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า” ทรงยิ้มให้ด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยนอย่างเป็นมิตรตลอดเวลา ข้าพเจ้ารู้สึกคุ้นเคยและสบายใจยิ่งนัก ข้าพเจ้ารู้ว่า… ทรงรู้ในทุกความคิด ภายในของข้าพเจ้าจริงๆ เป็นความมั่นใจมากยิ่งขึ้นที่จะก้าวต่อไป เมื่อมองไปที่เบื้องหน้าก็เห็นประตูบานใหญ่มหึมา สีขาวเป็นปูนทึบ สูงกว่าตัวข้าพเจ้าหลายเท่าประมาณ 3-4 เท่า… Read More »