มีหลายเรื่องราวที่ไม่สามารถตอบทุกคำถามได้ในทันที นั่นไม่ใช่เพราะไม่มีคำตอบ แต่เพราะน้ำหนักของคำตอบยังไม่ถูกพิสูจน์จนเป็นที่ยอมรับต่างหาก การจะพูดอะไรออกไปจึงแทบไม่เป็นผล สู้ทนนิ่งเงียบและใช้เวลาพิสูจน์ผลเสียจะดีกว่า… การจะเริ่มต้นทำในสิ่งที่เป็นตัวของเราเองตามการทรงเรียกที่เฉพาะเจาะจงนั้น ย่อมมีความแตกต่างและแปลกประหลาดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะถ้าการทรงเรียกนั้นๆ ที่มาถึงเรามีคนจำนวนน้อยที่มีประสบการณ์ด้วย เพราะบางของประทาน บางการทรงเรียกก็เป็นแบบมวลชน คือ คนหมู่มากทำกัน เช่นทีมนมัสการ นักประกาศ หรืออะไรก็ตาม แต่จะมีบางคนเท่านั้นที่พระจ้าเรียกเป็นพิเศษที่คนจำนวนน้อยเหลือเกินที่ถูกเรียกเช่นนี้ แน่นอนการมีตัวชี้วัดก็เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้พลาดจากกรอบหลักการของพระเจ้า นอกจากวัดเทียบด้วยพระคัมภีร์แล้ว บุคคลในพระคัมภีร์ก็คืออีกทางหนึ่งที่สามารถเทียบวัดได้ในด้านประสบการณ์และการทรงเรียก ของประทาน อีกทั้งคนในอดีตและปัจจุบันด้วย *** เพราะแท้จริงสิ่งที่สำคัญคือ พระองค์กำลังเรียกให้เราทำสิ่งใด เรามีหน้าที่ทำเท่านั้นเอง นี่แหละที่เรียกว่า “ตอบสนองพระเจ้า” อย่ากลัวที่จะผิดพลาดหรือล้มลง หากจะล้มในพระหัตถ์พระเจ้า แต่แน่นอนชีวิตบนโลกย่อมต้องถูกพิสูจน์ ทองเนื้อแท้ต้องถูกพิสูจน์ ซึ่งระหว่างทางแห่งการพิสูจน์นั้น เราไม่เพียงพิสูจน์ว่าเรากำลังเดินตามการทรงเรียกอย่างแน่วแน่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสายตามนุษย์สักวันหนึ่ง ให้พระเกียรติเป็นของพระเจ้าในวันที่เราเสร็จสิ้นภาระกิจเท่านั้น แต่มันกำลังพิสูจน์ตัวเราเองกับพระเจ้าว่าเราจะถวายเกียรติพระองค์ได้อย่างไรเป็นการส่วนตัวแบบเป็นชีวิต ไม่เพียงเท่านั้นเรากำลังพิสูจน์พระเจ้าผู้ทรงเรียกเราด้วยว่าพระองค์เรียกเราเพื่อการนี้จริงหรือไม่ กำลังพิสูจน์ตัวเองต่อพระเจ้าด้วยว่าเรายินดีตายต่อตัวเองเพื่อสิ่งที่ทรงเรียกเราแค่ไหน เพื่อที่จะตอบสนองพระองค์เพียงใด ซึ่งระหว่างทางแห่งการตอบสนองนี้ ย่อมมีทั้งการเรียนรู้ การขัดเกลา การลองถูกลองผิด การผิดพลาด การชำระและการฝึกปรือ ทุกอย่างอย่างครบรส บางครั้งดูเหมือนจะท้อแท้จนคิดได้เลยว่า เราเดินมาถูกทางหรือเปล่า? ..แต่ก็นั่นแหละเมื่อลองพิจารณาดูแล้วก็ไม่เหลือหนทางอื่นใดให้เราเดิน นอกเสียจากเดินหน้าตามเสียงที่เรียกเราแบบก้าวต่อก้าว… Read More »