Category Archives: สีสันชีวิต

○ สะท้อนความงดงามผ่านกระบวนการต่างๆ ที่พระเจ้าสร้างในชีวิตส่วนตัวข้าพเจ้าเอง
○ นำเสนอทัศนะ รูปแบบตามบุคลิกภาพและจุดยืนที่พระเจ้าเรียกในชีวิตข้าพเจ้าเอง

การภาวนา 1

คริสเตียนแทบทุกคนเคยได้ยินคำว่า “การภาวนา” อยู่แล้ว แต่มีสักกี่คนที่สามารถทำได้จริง   ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยให้เรานั่งลงอธิษฐาน ในเวลาที่ภารกิจต่างๆ รัดตัว จนไม่สามารถปลีกตัวเองออกมาได้ ในยามคับขันที่ไม่สามารถร้องทูลได้อย่างเป็นทางการ ในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน ในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคยหรือคล่องตัว ในท่ามกลางผู้คนที่ดูเหมือนจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกลับเราอย่างสิ้นเชิง . . .   เราทุกคนต่างต้องเผชิญหน้า กับวันเวลา สถานการณ์ รวมถึงผู้คน ที่ไม่อาจควบคุมทุกสิ่งให้สะดวกสบายดั่งใจนึกได้ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เราไม่อาจทำในสิ่งที่เราวาดไว้อย่างสมบูรณ์แบบได้ บางคนตีกรอบความคิดว่า … “พระเจ้าจะฟังคำร้องทูลของเราต่อเมื่อเรานั่งลงอธิษฐานในท่าสวยงามอย่างเพียบพร้อมเท่านั้น” บ้างก็จำกัดพระเจ้าว่า … “ไม่ทรงเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นและเผชิญอยู่” แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องการการช่วยกู้จากพระเจ้า *สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้ออ้างในการไม่ได้เริ่มต้นอธิษฐานด้วยการภาวนาภายในเลยด้วยซ้ำ!!! แท้จริงพระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นและรู้ว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใดอยู่ พระองค์ทรงยอมรับได้ และทรงรับรู้ถึงภายในด้วยการหยั่งลึกและชันสูตร ทรงมอบหนทางแก่เราด้วยการไม่จำกัดรูปแบบ หรือยึดติดรูปแบบ หรือกำหนดสิ่งต่างๆ ให้กับเราชนิดที่ยากเกินจะทำได้ แต่ทรงให้เราสามารถภาวนาและร้องทูลต่อพระองค์ได้ทุกเมื่อทุกเวลา ทุกสภาพการณ์ ทุกสถานที่   แต่คนจำนวนมากกลับละเลยและไม่ทำสิ่งที่แสนง่ายเหล่านี้ พยายามหาเหตุผลข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลานั่งลงอธิษฐาน”“ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เป็นรูปแบบเพื่อพระเจ้าได้เลย” ดูเหมือนใจจะแสวงหาพระเจ้า แต่กลับละเลยและทอดทิ้งพระองค์โดยสิ้นเชิง และป้อนเหตุผลนาๆ ประการให้ตนเองดูดีด้วยความปรารถนาอยากจะเข้าหาพระเจ้าแต่สิ่งอื่นๆที่ควบคุมไม่ได้บีบคั้น   ในความเป็นจริงอีกด้านหนึ่ง หากเราตระหนักได้ว่า พระเจ้าทรงอยู่กับเรา… Read More »

อยากได้สิ่งยิ่งใหญ่

โดยปกติธรรมชาติของมนุษย์มักมีความปรารถนาอยากได้ อยากครอบครอง สิ่งต่างๆ ในปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่จบสิ้น แต่ทุกความปรารถนาที่ประสบผลสำเร็จ มีหลายปัจจัยที่ข้องเกี่ยว โดยเฉพาะปัจจัยของการหว่าน เมื่อเราหว่านสิ่งใดลงไป ย่อมได้เก็บเกี่ยวผลจากสิ่งนั้นๆ 2 คร.9:6-7 9:6 นี่แหละ คนที่หว่านเพียงเล็กน้อยก็จะเกี่ยวเก็บได้เพียงเล็กน้อย คนที่หว่านมากก็จะเกี่ยวเก็บได้มาก 9:7 ทุกคนจงให้ตามที่เขาได้คิดหมายไว้ในใจ มิใช่ให้ด้วยนึกเสียดาย มิใช่ให้ด้วยการฝืนใจ เพราะว่าพระเจ้าทรงรักคนนั้นที่ให้ด้วยใจยินดี พระเจ้ามีน้ำพระทัยที่จะประทานให้แก่คนของพระองค์อย่างเต็มที่เป็นที่ตั้งอยู่แล้ว แต่เราแต่ละคนได้รับแตกต่างกัน อันเนื่องมาจากขนาดของการหว่าน อยากได้สิ่งยิ่งใหญ่   แบบอย่างที่น่าเรียนรู้ 1.    อยากได้ความมั่งคั่งแบบโยบ ต้องผ่านจุดวิกฤตอย่างที่สุดแบบที่โยบผ่าน กว่าจะทวีคูณความมั่งคั่งที่มีอยู่ โยบถูกเขย่าจนกระทั่งหมดสิ้นทุกสิ่ง และในขณะที่หมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง เขายังคงยืนหยัดและติดตามพระเจ้าเป็นอย่างดี ไม่ต่างจากในวันเวลาที่เขามีเลย ดังนั้น พระพร ฟ้าหลังฝนจึงยิ่งทวีคูณความยิ่งใหญ่ของพระเจ้ามายังชีวิตของเขามากกว่าเดิมเสียอีก ฐานเดิมถูกเปลี่ยนเป็นฐานใหม่ที่กว้างใหญ่มากขึ้นเป็นเท่าตัว จากวิกฤตการณ์กลับกลายเป็นจุดแห่งการรื้อฟื้นอย่างมาก ด้วยหัวใจที่ขอบพระคุณพระเจ้าต่อทุกสถานการณ์ที่เขาได้รับและต้องเผชิญ โยบ 1:1-2 1:21 ท่านว่า “ข้าพเจ้ามาจากครรภ์มารดาของข้าพเจ้าตัวเปล่า และข้าพเจ้าจะกลับไปตัวเปล่า พระเยโฮวาห์ทรงประทาน และพระเยโฮวาห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามพระเยโฮวาห์” 1:22 ในเหตุการณ์นี้ทั้งสิ้นโยบมิได้ทำบาปหรือกล่าวโทษพระเจ้าอย่างโง่เขลา โยบ 2:9-10 2:9… Read More »

โลกแห่งการปรุงแต่ง

โลกนี้ได้มีพัฒนาการต่างๆ มากมาย ความเจริญของบางสิ่งเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับความเสื่อมบางด้าน วัตถุที่เจริญก้าวหน้ามากขึ้นก็เติบโตขึ้นพร้อมๆ กับความเสื่อมจริยธรรมและสิ่งดีงามเดิมๆ จนบางครั้งมันบดบัง หรือแม้แต่เปลี่ยนสิ่งแรกเริ่มจนไม่เห็นเงาเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเราสามารถรับความเจริญก้าวหน้าของสิ่งรอบตัวได้อย่างไม่ต้องรู้สึกตะขิดตะขวงใจใดๆ เพราะท่ามกลางความเจริญเหล่านั้น ย่อมอยู่ใต้การควบคุมของพระเจ้า เพียงแต่เราต้องคำนึงและยอมรับว่า … บางสิ่งที่หายไป ได้ถูกทดแทนจนกระทั่ง ชีวิตของมนุษย์ก็อยู่บนเปลือกแห่งการปรุงแต่งเสียมากกว่า แท้จริงพระเจ้าสร้างและใส่สิ่งที่เรียกว่า “ดียิ่งนัก” ในตัวของเราเองอยู่แล้ว เราจึงสามารถเรียนรู้น้ำพระทัยของพระเจ้าได้จากธรรมชาติชีวิตของมนุษย์ อาทิเช่น เมื่อหิว  > ก็ต้องกิน เมื่อง่วง > ก็ต้องนอน เมื่อเสียใจ > ก็สามารถร้องไห้ เมื่อดีใจ > ก็แสดงออกเป็นร้องเพลง . . . สิ่งที่น่ากลัว คือ หลายครั้งการดำเนินชีวิตของเราได้ขาดหายไปจากวัตถุประสงค์แรกเริ่มด้วยการให้เหตุผลของความเจริญเหล่านั้นมาบดบังความดียิ่งนักที่พระเจ้าใส่ไว้ให้ ทำให้เริ่มปกปิด ปิดบัง และสร้างภาพบางอย่างขึ้นมาทดแทนธรรมชาติชีวิตที่พระเจ้าสร้าง ก่อให้เกิดความทุกข์ใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเสรีภาพที่เคยและควรได้รับ กลับถูกจำกัดหรือตีกรอบให้บิดเบี้ยวไป โลกแห่งการปรุงแต่ง 1.    แท้จริงสิ่งที่พระเจ้าสร้าง และมอบให้แก่เราแต่ละคนนั้นดีอยู่แล้ว และมันจะค่อยๆ ถูกพัฒนา เพื่อสร้างเราสู่ความไพบูลย์ของพระคริสต์มากขึ้นในแต่ละวันเวลา เพื่อให้เราเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าในชีวิตอย่างเด่นชัด 2.    โลกที่พัฒนาอย่างไม่ที่สิ้นสุด… Read More »

สะท้อนกลับ

การแช่งด่าอันไม่สมเหตุสมผล ไม่มีผลใดๆ ต่อผู้ชอบธรรม ด้วยความรักและหวงแหนของพระเจ้าที่มีต่อผู้ชอบธรรม จะทรงลุกขึ้นปกป้องต่อสู้ผู้ที่ทำร้ายบุตรอันเป็นที่รักดั่งแก้วตาดวงใจของพระองค์ ยิ่งผู้นั้นตอบสนองอย่างดีและถูกต้อง ด้วยการไม่โต้ตอบกลับในทางที่ร้าย ยิ่งเหมือนสุมไฟในทรวงกับศัตรู เพราะไม่เป็นไปตามคาดหมายของเขา กฎการหว่านมีอยู่ว่า : ผู้ใดหว่านสิ่งใด ย่อมได้เก็บเกี่ยวสิ่งนั้น หากใครหว่านการร้ายต่อผู้อื่น ย่อมต้องเก็บเกี่ยวการร้ายนั้น กรณีหว่านแล้ว ผู้อื่นตอบแทนร้ายกลับมา แน่นอนว่าผลจะต้องเก็บกินทั้ง 2 ฝ่าย คือ การแตกหัก ชิงชัง พ่ายทั้งคู่ แต่หากใครทำร้ายเรา แล้วเรานิ่งเฉยและสงบ การร้ายนั้นจะไม่เป็นผลมาถึงเรา โดยเฉพาะคำแช่งสาป เพราะพระเจ้าจะปกป้องเราเป็นแน่ อีกทั้งผลแห่งการหว่านของศัตรูจะนำความชอกช้ำตกแก่เขาเอง ด้วยกฏแห่งการหว่านโดยที่เราไม่ต้องเปลืองตัว ออกแรงใดๆ … แค่สงบใจให้ได้เป็นพอ   สะท้อนกลับ 1.    จงดำเนินชีวิตให้พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา เมื่อมีการร้ายเข้ามา << การหวงแหนของพระองค์จะเป็นดั่งป้อมปราการ ที่มากกว่าการปกป้อง แต่จะเป็นดั่งโล่ที่สะท้อนลูกธนูของศัตรูยิงมาให้กลับออกไปยังเขาเอง 2.    พระเจ้าจะลุกขึ้นต่อสู้และแก้ต่าง แทนผู้ชอบธรรมในเวลาอันสมควร เป็นแน่ …       แต่ผู้ที่อดทนไม่ไหว ลุกขึ้นจัดการศัตรูด้วยมือตนก่อน จะไม่ได้เห็นการนั้นจากพระเจ้า เพราะการตอบสนองที่ทำให้พระเจ้าอยู่ฝ่ายเราไม่ได้…    … Read More »

กระบวนการชำระและสร้างใหม่

เวลาอาบน้ำ ไม่มีกำหนดกฎบังคับว่าต้องอาบกี่ขัน อาบกี่ครั้ง >> แต่อาบจนกว่าจะสะอาดหมดจด เวลากิน ไม่มีกำหนดว่ากินกี่คำ >> แต่กินจนกว่าจะอิ่ม เวลานอน ไม่มีข้อบังคับว่าต้องนอนมากน้อยแค่ไหน >> แต่พักจนกว่าจะมีแรงและสดชื่น การชำระและสารภาพบาปก็เช่นกัน ไม่มีกำหนดกฎเกณฑ์ว่า ต้องอธิษฐานกี่ครั้ง >> แต่ให้อธิษฐานจนกว่าตนเองจะมั่นใจว่า สะอาดแล้ว อิสยาห์ 1:18 พระ‍ยาห์‌เวห์ตรัสว่า“มา‍เถิด ให้พวก‍เราสู้‍ความกันถึงบาปของเจ้าเป็นเหมือนสี‍แดง‍เข้มก็จะขาวอย่างหิมะถึงมันจะแดงเหมือนผ้า‍แดงก็จะเป็นอย่างขน‍แกะ แท้ที่จริงฤทธิอำนาจโลหิตของพระเยซูบนกางเขนนั้นเปี่ยมพลัง สามารถยกโทษชำระเราแต่ละคนได้อย่างหมดจด ตั้งแต่ครั้งแรกและครั้งเดียว แต่เนื่องจากเราแต่ละคนมีขนาดความมั่นคงทางจิตใจ ในแต่ละเรื่องที่แตกต่างกัน ประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน ความเปราะบางและความเข้มแข็งในแต่ละด้านที่ต่างกัน ดังนั้นความมั่นใจในการชำระแต่ละคนจึงต่างกัน แม้ในตัวคนๆ เดียวกัน ก็อาจต่างกันในแต่ละเรื่อง แต่ละเวลาด้วยซ้ำ จึงไม่ควรท้อแท้ หรือปรักปรำตนเอง ในการใช้เวลารับการชำระจากพระเจ้า หากยาวนานกว่าคนอื่น หรือไม่ทันใจตนเอง >>> เพราะในขณะนั้นเรากำลังอยู่ในกระบวนการสร้าง การเยียวยา และการรื้อฟื้น ไปพร้อมๆ กัน เพื่อจะมีชีวิตใหม่ได้อย่างแท้จริง ตัวอย่าง  พระเยซูสอนเปโตรให้ยกโทษ 7×70 ครั้ง มัทธิว 18:21-22 21 ขณะนั้นเป‌โตรมาทูลพระ‍องค์ว่า… Read More »

ระดับการตอบสนองพระเจ้า 2 แบบ

1 คร.10:13 ไม่‍มีการทด‍ลองใดๆ เกิด‍ขึ้นกับท่าน‍ทั้ง‍หลาย นอก‍เหนือการทด‍ลองซึ่งเคยเกิดกับมนุษย์ พระ‍เจ้าทรงซื่อ‍สัตย์ พระ‍องค์จะไม่ทรงให้พวก‍ท่านต้องถูกทด‍ลองเกินกว่าที่ท่านจะทนได้ และเมื่อถูกทด‍ลอง พระ‍องค์จะทรงให้มีทางออกด้วย เพื่อพวก‍ท่านจะมีกำลังทนได้ ระดับการตอบสนองพระเจ้า 2 แบบ 1.    ไม่รู้หนทางข้างหน้า •    เมื่อมีสถานการณ์ใดๆ ที่ต้องเผชิญแม้ไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้มาก่อนว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับเรา ไม่รู้ว่าหนทางในการตอบสนองจะเป็นอย่างไร คำตอบของพระเจ้าคืออะไร สิ่งที่ต้องตอบสนองคือ… วางใจ •    พระเจ้าจะทดสอบเรื่องความวางใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่ว่าหนทางข้างหน้าเป็นอย่างไร สิ่งที่ตอบสนองจะถูกหรือไม่ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่พระเจ้าจะทรงทอดพระเนตรที่จิตใจภายในของเราว่าเต็มที่หรือยัง ไว้วางใจและร่วมผจญภัยไปกับพระเจ้า ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแสวงหาคำตอบและทางออกในการก้าวเดินจากพระเจ้า ระมัดระวังโดยมีพื้นฐานพระคัมภีร์เป็นหลัก เพื่อตีกรอบในการตอบสนองอย่างดี •    ระดับการตอบสนองจุดนี้ พระเจ้าวัดว่าภายในเราผ่านแค่ไหน? เพื่อสร้างความแกร่งและความเข้าใจพระองค์มากขึ้น แม้ตอบสนองถูกบ้างผิดบ้าง ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นหลักคือ เราต้องผ่านเรื่องความวางใจพระองค์และพึ่งพาพระองค์ ซึ่งหนทางข้างหน้าพระองค์จะเป็นผู้กระทำเอง •    *** สรุป ตอบสนองเต็มที่ที่สุด เพราะพระเจ้าวัดเส้นผ่านแค่ใจผ่าน เมื่อใจผ่านสิ่งอื่นจะตามมาเอง ***   2.    พระเจ้าเปิดเผยให้รู้ล่วงหน้า •    รู้ทุกอย่างว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลาใดๆ เพื่อเตรียมรับมือ… Read More »

หัวใจของผู้เป็นแม่อย่างนางมารีย์

พระเจ้ามีแผนการณ์ในเราแต่ละคน แต่ละส่วน และแต่ละช่วงเวลา ซึ่งแผนการณ์ของพระเจ้าในชีวิตของเราอาจบรรจบตรงกับใครบางคน เพื่อร่วมกัน หรือประสานกัน แต่ละส่วนเป็นอย่างดี ครบถ้วน ในบางช่วงเวลา… แน่นอนพระเจ้าไม่ได้ให้เรามีทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ หรือยืนทุกตำแหน่งได้อย่างสมบูรณ์ด้วยตัวเราเองคนเดียว… แต่ทรงนำเราแต่ละคนมาประกอบกัน เหมือนอวัยวะประกอบเป็นร่างกาย และมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ส่วนตัวเราเองจำเป็นต้องเรียนรู้อย่างยิ่งถึงแผนการณ์ของพระเจ้า เพื่อจะอยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ และรู้จุดยืนของตนว่า “พระองค์วางเราไว้ตรงไหน?” และ “เราต้องตอบสนองสิ่งใดๆบ้าง?” พระบิดาทรงใช้ครรภ์ของนางมารีย์ เพื่อให้กำเนิดพระเยซูพระบุตรของพระเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแต่มารับสภาพมนุษย์บนโลก แต่พระบิดาทรงกำหนดและเลือกหญิงสาวพรหมจรรย์ผู้นี้ ในการทำให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จและสมบูรณ์ ส่วนนางมารีย์ก็ตอบสนองพระเจ้าได้อย่างดีทีเดียว เธอสามารถละทิ้งความอับอาย เกียรติยศ ชื่อเสียงและความสะดวกสบายที่เธอมี เพื่อจะเดินตามน้ำพระทัยพระเจ้าและมีส่วนสำคัญในงานของพระองค์ในครั้งนี้ เธอพบความยากลำบากในการตั้งครรภ์ ตลอดจนการคลอด การเลี้ยงดูให้พระบุตรเจริญวัย แต่เมื่อถึงวาระครบบริบูรณ์ นางมารีย์คนนี้รู้น้ำพระทัยพระบิดาแต่แรกแล้วว่าบุตรในครรภ์ของเธอคือองค์พระผู้เป็นเจ้า และเธอรู้ว่าเธอต้องอยู่ในแผนการณ์ของพระองค์นานเพียงใด รู้ว่าพระบุตรนั้นแม้จะเป็นบุตรของเธอแต่ก็ไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของพระบิดาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว…. เมื่อถึงวาระพระเยซูทรงออกทำพระราชกิจของพระองค์ หญิงคนนี้ไม่ได้ขัดขวางเอาเสียเลย จะเห็นได้ว่าพระเยซูทรงกระทำพระราชกิจของพระองค์ โดยปราศจากการขัดขวางของครอบครัวเลย อาจมีเพียงครั้งเดียวที่ครอบครัวยังไม่รู้ ว่าถึงวาระและเวลาของพระองค์แล้ว แต่นั่นเป็นเพียงครั้งเดียว… เพราะหลังจากนั้นเราไม่เห็นการปรากฏของนางมารีย์ในการขัดขวางเลย หัวอกคนเป็นแม่… ยามเมื่อลูกเติบโตต้องยอมให้ออกไปค้นหาตนเอง และพระเยซูทรงทำเช่นนั้นตามน้ำพระทัยพระบิดา … ส่วนของนางมารีย์ผู้ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเพื่อการคลอด การเลี้ยงดูพระเยซู คงมีทั้งความรักผูกพัน การทุ่มเทชีวิต ความหวงแหน… Read More »

ลำดับขั้น

คนส่วนใหญ่ ชอบผลกำไร … แต่ไม่ชอบการลงทุน คนส่วนใหญ่ อยากได้พระพร … แต่ไม่ค่อยอดทนต่อการสร้างของพระเจ้า คนส่วนใหญ่ อยากได้สิ่งดี … แต่ไม่ค่อยยอมเป็นคนที่หยิบยื่นสิ่งดี คนส่วนใหญ่ อยากประสบความสำเร็จ … แต่ไม่อยากฝึกฝน หรือวางรากฐาน คนส่วนใหญ่ อยากจะไปถึงเส้นชัย … แต่ไม่อยากจะเริ่มต้น ความเป็นจริงในชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่ได้มาโดยปราศจากการลงทุน และไม่มีทางใดพาเราไปถึงเส้นชัยทั้งๆ ที่ไม่ผ่านจุดเริ่มต้น กว่าคน 1 คนจะเติบโตได้ ย่อมต้องผ่านกระบวนการสร้างมาอย่างมากมาย กว่าเด็กคนหนึ่งจะเดินได้ ย่อมต้องผ่านการล้มลุกคลุกคลาน เมื่อเดินได้ ก็สามารถวิ่งต่อไปได้ ทรงตัวได้ กระบวนการของพระเจ้าในชีวิตเราก็เช่นกัน พระองค์จะ… •    ค่อยๆ สอนเรา ทีละขั้นทีละตอน •    ค่อยๆ ขยายฐานชีวิตออกทีละนิด ยิ่งฐานกว้างออกมากเท่าไร การเติบโตยิ่งสามารถสูงได้มากเท่านั้น •    ค่อยๆ นำเราทีละก้าว •    ค่อยๆ สร้างเราทีละวัน ทีละเรื่องราว จนไปถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์ ดังนั้นเมื่อพระเจ้าทรงตรัสหรือสำแดงบางสิ่งบางอย่างกับเรา เราจำเป็นต้องตอบสนองและเชื่อฟังพระเจ้าในแต่ละก้าว แต่ละเรื่องเป็นอย่างดี… Read More »

การด่าทอ

การด่าทอเป็นเพียงแค่การระบายอารมณ์ของตนให้พุ่งออกไปปะทะผู้อื่น เพื่อให้ตนเองดูดีขึ้นและยกระดับคุณค่าของตน ด้วยการทำร้ายผู้อื่นด้วยคำด่า คำหยาบคาย คำดูหมิ่น คำสบประมาท คำที่ทำให้ผู้อื่นเจ็บช้ำน้ำใจ… เป็นการแสดงว่า “ตนเหนือกว่า” จึงขุดเอาคำที่เหยียบย่ำจิตใจส่วนที่ชอกช้ำให้โผล่ขึ้นมา แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้ว ยิ่งด่าทอ ยิ่งหยาบคาย ยิ่งสบประมาท ผู้อื่นมากเท่าไร ก็ยิ่งลดระดับความสูงส่งและมีเกียรติในสายตาผู้อื่นมากเท่านั้น อันเนื่องจาก ไม่สามารถควบคุมลิ้นของตนได้ สภษ.17:27-28 27บุค‌คลที่ยับ‍ยั้งถ้อย‍คำของเขาเป็นคนมีความรู้ และบุค‌คลผู้มีจิต‍ใจเยือก‍เย็นเป็นคนมีความเข้า‍ใจ 28แม้คน‍โง่หากนิ่งเสียก็นับ‍ว่ามีปัญญา เมื่อเขาปิดปากของตนก็นับ‍ว่ามีความคิด หลายครั้งการดำเนินชีวิตบนโลกที่เสียเปรียบ มักทำให้เกิดการต่อสู้เพื่อปะทะให้เห็นว่า “ตนเองก็แน่เหมือนกัน” ออกมาในรูปแบบของการด่าทอ ดูเหมือน “ตนเองจะเหนือกว่า” แต่ท้ายที่สุดกลับส่งผลเสียโดยตรงกลับมาที่ตน สดด.34:13-14 13ก็จงระวังลิ้นของเจ้าจากความชั่ว และอย่าให้ริม‍ฝี‍ปากพูดล่อ‍ลวง 14จงหันจากความชั่ว และจงทำความดี จงแสวงหาสันติ‍ภาพ และจงติด‍ตามมันไป ยก.3:9-10 9เราสรร‌เสริญองค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้าและพระ‍บิดาด้วยลิ้นนั้น และเราก็แช่ง‍ด่ามนุษย์ผู้ที่พระ‍เจ้าทรงสร้างตามพระ‍ฉายาของพระ‍องค์ด้วยลิ้นนั้น 10คำสรร‌เสริญและคำแช่ง‍ด่าออกมาจากปากเดียว‍กัน พี่‍น้องของข้าพ‌เจ้า อย่าให้เป็นอย่าง‍นั้น ลนต.24:13-16 13พระ‍ยาห์‌เวห์ตรัสกับโม‌เสสว่า 14“จงนำผู้ที่แช่ง‍ด่านั้นออก‍มาจากค่าย ให้บรร‌ดาผู้ที่ได้‍ยินคำแช่ง‍ด่า เอามือของตนวาง‍ไว้บนศีรษะของเขา และให้ชุม‌นุม‍ชนเอาหินขว้างเขาให้ตาย 15และจงกล่าวแก่คนอิสรา‌เอลว่า ผู้‍ใดแช่ง‍ด่าพระ‍เจ้าของเขา ผู้‍นั้นจะต้องได้รับ‍โทษบาป 16ผู้‍ใดเหยียด‍หยามพระ‍นามพระ‍ยาห์‌เวห์จะต้องถูกลง‍โทษถึงตาย ให้ชุม‌นุม‍ชนขว้างเขาเสียให้ตาย คนต่าง‍ด้าวหรือชาว‍เมืองก็ดี… Read More »

เสริมสร้างให้สมบูรณ์ ใช่ว่าหักล้าง

ในโลกนี้เรื่องราวต่างๆ มีหลายด้านหลายมุมเสมอ อยู่ที่ว่าใครจะมองมุมไหน แง่ไหน present จุดไหน ซึ่งการมองเห็นต่างมุม คิดแตกต่าง หลายๆ ครั้งไม่ใช่เรื่องผิดเลย เมื่อนำมาประกอบรวมกันกลับทำให้สมบูรณ์มากยิ่งๆ ขึ้น แต่มีคนส่วนมาก ที่มองเรื่องความเห็นต่างผิดไปจากความจริง ที่ว่า … คนที่เห็นต่างเป็นศัตรูความคิด หรือตั้งป้อมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา คนที่ขาดความมั่นคงภายในจิตใจมักสร้างเกราะกำบังให้ตนเองและหลบซ่อนอยู่ภายใน เพื่อความปลอดภัย บ้างก็เป็นเกราะที่ปิดตนเองจากสิ่งอื่นๆ , บ้างก็เป็นเกราะคิดว่าตนต้องถูกเพียงคนเดียว , ใครเห็นต่างคนนั้นผิด หรือเป็นศัตรู •    ส่งผลให้ไม่มีการพัฒนาชีวิตหรือแนวความคิดที่เติบโตขึ้น เพราะมองแค่ด้านเดียว •    ส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งเพียงแค่มุมเดียว แต่มุมอื่น ส่วนอื่นอ่อนแออย่างแรง เพราะปิดกั้นตนเองจากสิ่งที่ตนไม่รู้ ไม่เข้าใจ แม้ผู้อื่นรู้และเข้าใจมากกว่าก็ยอมรับไม่ได้ •    ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึง หรือแม้แต่จะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ พระเยซูไม่ได้มาล้มเลิกธรรมบัญญัติ แต่ทรงมาทำให้สมบูรณ์ เมื่อพระองค์ทรงสอนเพื่อเปิดตาใจ สำแดงความกระจ่างแจ้งแก่มนุษย์ในแง่มุม ในด้านที่แตกต่าง ในส่วนที่มนุษย์เข้าไม่ถึง… เป็นเหตุให้เหล่าฟาริสี ไม่ยอมรับและเป็นเหตุให้ยกสิ่งเหล่านี้ มาโจมตีเพื่อจับกุมพระเยซู โดยตั้งข้อหาที่คำพูดบางคำ บางตอนของพระองค์ หลายครั้งเราเป็นเช่นเดียวกับฟาริสีหรือเปล่า???  ที่จับคำพูดบางคำ บางตอนของผู้อื่นขึ้นมาโจมตีและให้ร้าย แม้สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผิดไปจากพระคำพระเจ้า แต่มันผิดตรงที่คิดเห็นแตกต่างจากเรา… Read More »