ไม่ใช่ทุกปัญหาคือการโจมตี

By | 2015/02/23

มารวนเวียนอยู่รอบกายดุจสิงคำราม

1 ปต.5:8 ท่านทั้งหลายจงเป็นคนใจหนักแน่นจงระวังระไวให้ดี ด้วยว่าศัตรูของท่าน คือพญามาร วนเวียนอยู่รอบ ๆดุจสิงโตคำราม เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้

แท้จริงมารคอยวนเวียนอยู่รอบๆ กายเรา เพื่อมองหาช่องว่างของจุดอ่อนที่เรามีอยู่

เมื่อมันโจมตีมันใช้จุดอ่อนเหล่านั้นของเรา ไม่ใช่เพราะเราทำสิ่งใดๆ…. การมีจุดอ่อนเป็นการเปิดช่องโหว่ที่มารมองเห็น ซึ่งหลายอย่างเรามองไม่เห็นหรือแม้แต่ไม่ยอมรับด้วยซ้ำ เมื่อใดก็ตามที่มารซาตานยังคงโจมตีเราได้ แสดงว่าเรายังคงมีจุดอ่อนที่เปิดช่องโหว่ไว้อยู่ สะท้อนให้เห็นว่า เราต้องเร่งปิดช่องโหว่นั้น ด้วยการรับจากพระเจ้า (เยียวยา , ความคิดใหม่ , การสร้างใหม่ , ความรู้ความเข้าใจใหม่ , …) เพื่อให้ช่องโหว่นั้นถูกปิดลง ให้จุดอ่อนนั้นถูกแก้ไข

*** มารไม่ได้โจมตีเมื่อเรารับใช้พระเจ้า แต่โจมตีเพราะเรามีจุดอ่อนต่างหาก ส่งผลทำให้

 หนีการรับใช้ >> จุดอ่อนก็ยังคงอยู่ แม้ไม่ทำอะไรเลย ก็โดนโจมตีอยู่ดี
 สู้กับมัน >> แต่แพ้ เพราะจุดอ่อนยังคงอยู่

แท้จริงพระเจ้าใส่ความล้ำลึกสุดๆไว้ในแผนการณ์พระเจ้าโดยใช้ แม้แต่มารเองในการชี้จุดกลับใจใหม่ให้แก่เรา (แต่คนเรามักมองพระเจ้าผิด เพ่งตรงไปที่มาร ซึ่งมารมันฉลาดหลอกเราให้หลงไปจากความเข้าใจอันแท้จริงของพระเจ้า) >> ดังนั้นทุกครั้งที่เราจะรับใช้ หรือจะทำบางอย่าง จึงดูเหมือนว่า โดนขัดขวาง , โดนโจมตี , โดนรบกวน

แท้จริงพระคัมภีร์บอกว่ามารซาตานทำงานโดยการวนเวียนอยู่รอบกายเรา มันจะไม่ออกแรงของมัน เมื่อเราไม่มีช่องโหว่ แต่หากมันเห็นช่องนั้นเมื่อไร เมื่อนั้นแหละมันจะจัดเต็ม โดยการใช้ช่องที่เราเปิดแง้มไว้

ตัวอย่าง คนทำประกันภัยรถยนต์ ไม่ค่อย เจออุบัติเหตุ แต่พอประกันหลุดปุ๊บเจออุบัติเหตุปั๊บ เพราะมีช่องโหว่… แท้จริงหากเรามีประกันภัยรถยนต์อยู่ ไม่ขาด แม้เกิดอุบัติเหตุ เราก็ปลอดภัย เพราะบริษัทประกันจะดูแลรับผิดชอบความผิดพลาดที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นเอง แต่เมื่อประกันขาด ความรับผิดชอบจึงตกเป็นของเราเอง ความหนักและความลำบากจึงต่างกัน

ลองสังเกตดูว่า จริงไหม? เวลาเผลอทีไร สิ่งต่างๆ มักเข้ามารุมเร้าจนบางครั้งหนักหน่วงเกินตั้งตัว …

ดังนั้นการโจมตีไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเรารับใช้ (เสมอไป หรือทุกครั้งไป) ในทางกลับกัน แม้เราไม่ได้ทำอะไรเลย การโจมตีก็ยังมีได้ … นั่นแสดงว่า… การโจมตีมาจากทางอื่น และมันสะท้อนให้เห็นว่า หากการโจมตีมา แทนที่จะหาทางแก้โน่นแก้นี่ไปเรื่อยเปื่อย เราต้องจัดการเหตุแห่งการโจมตีนั้น ด้วยการหาให้เจอว่า…
– จุดอ่อนของเราคืออะไร
– เรากำลังเปิดช่องอะไรอยู่
– อะไรที่เป็นช่องโหว่ในขณะนั้นกันแน่ …

ซึ่งโดยส่วนใหญ่เราจะรู้ตัวภายในลึกๆ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์มักบอกเรา เตือนเราก่อนแล้ว แต่หลายครั้งมักไม่ใส่ใจบ้าง ไม่สนใจบ้าง คิดว่าไม่เป็นไรบ้าง บางทีก็มีข้อแก้ตัวและสารพัดเหตุผลทำให้น้ำหนักที่พระวิญญาณบริสุทธิ์เตือนนั้นดูเบาบางจนกระทั่งไร้น้ำหนัก… จนไม่ยอมจัดการมัน ปล่อยผ่านมันไปและรอจนกระทั่งมารใช้จุดนั้นโจมตี

หากจัดการแต่แรก การกลับใจใหม่ การรับการช่วยเหลือ การแก้ไข ก่อนการโจมตีย่อมเกิดขึ้นได้ ….

เมื่อเราอธิษฐานขอการปกคลุมมาอย่างดี มีหรือ????? พระเจ้าไม่ทำส่วนของพระองค์ พระเจ้าจะไม่ฟังคำร้องทูลนั้นจากใจ (แต่บางครั้งยังขาดส่วนของเราต่างหาก) เก๊ตเร็วจัดการเร็ว , เก๊ตช้าก็โดนนานหน่อย , เก็ตแล้วยังต้องปล้ำสู้อีก ใช้เวลาอีกกว่าเราจะผ่าน อยู่ที่ยอมเร็วแค่ไหน???

แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ไม่ทิ้งเรา ทั้งเตือน ทั้งคอยช่วย ทั้งเคียงข้าง แต่ประเด็นคือ เราไม่เคยคิดว่ามันเกี่ยวโยงกัน ไม่เคยเห็นว่ามันมีผล เหตุนี้เองเพราะเนื้อหนังจึง ไม่อยากเปลี่ยน ไม่ยอมสู้ แต่อยากจะได้การช่วยกู้ เอาแต่พระพร … ทีนี้ก็ทำให้ได้รับการช่วยกู้เพราะเราเรียกหาพระเจ้า แต่ไม่ชนะขาดสักที เจอซ้ำๆๆๆๆ อยู่ร่ำไป

การโจมตีที่เกิดจากการเปิดช่องโหว่ไว้ … มีวิธีการจัดการอย่างไร

1. ทบทวนว่าช่วงนี้พระเจ้าพูดอะไร เน้นย้ำเรื่องอะไร มีเหตุการณ์อะไร ที่เราทำเมิน ทำเฉย ต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ แม้ทรงตรัสแล้ว แต่เรามักบอกว่า “ไม่เป็นไร” “ช่างมันเหอะ” “คนอื่นไม่เห็นเป็นไรเลย” “ไม่น่าจะเกี่ยวเลย”….

2. จัดการให้หมด สารภาพบาป กลับใจใหม่ รับการเยียวยา ขอกำลัง

3. ขอการปกป้อง และสั่งไม่อนุญาติให้มารยุ่งเกี่ยว แม้ในเวลาที่อ่อนแอ… แน่นอนมารมันไม่ฟังเราหรอก ขนาดพระเจ้ามันยังไม่ฟังเลย แต่สิทธิอำนาจของโลหิตพระคริสต์บนกางเขนจะตีกรอบชีวิตเราไว้ ในขณะที่เรากำลังต่อสู้อยู่ แต่หากเราไม่คิดจะกลับใจใหม่ ไม่คิดจะปล้ำสู้ อันนี้แหละช่องโหว่ใหญ่บิ๊กบึ้มกว่าจุดอ่อนหรือช่องโหว่อื่นๆ เสียอีก

4. ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะ หลายๆ เรื่อง 90% ไม่ได้ชนะในครั้งเดียว ดังนั้นต้องจัดการไปจนกว่าจะชนะ

*** เมื่อเราปิดทุกช่องโหว่ มารจะทำได้เพียงวนเวียนอยู่รอบๆ และทำอะไรเราไม่ได้เลย อย่าเปิดประตูเชิญชวนมันเข้ามา และอย่าคิดออกจากประตูแห่งการปกคลุมของพระเจ้า เพราะในการปกคลุมของพระเจ้านำมาซึ่งความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ***

ไม่ใช่ทุกปัญหาคือการโจมตี

 

คำอธิษฐานขอพระเจ้าช่วยจากการเปิดช่องโหว่ให้ถูกโจมตี

“ข้าแต่พระเจ้า…
ข้าพระองค์ของกลับใจใหม่ สารภาพบาป ที่ไม่ได้เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีมาถึงอย่างสุดใจ
บัดนี้ขอพระองค์ทรงโปรดชำระและให้อภัย
ขอทรงนำการรื้อฟื้นและเริ่มต้นใหม่มาถึง
ขอปกคลุมด้วยพระโลหิตบนกางเขน
ขอทรงช่วยกู้ออกจากสภาวการณ์ที่ถูกโจมตี และรบกวนอันเกิดจากการเปิดช่อง
ขอกำลังใหม่ในการปล้ำสู้และต่อสู้กับเนื้อหนัง เพื่อให้มีชัยชนะในย่านฟ้า
ขอประกาศไม่อนุญาตให้มารซาตานโจมตี หรือรบกวน ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้ ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน บุคคลที่รัก
ขอพระองค์ทรงอวยพรและเสริมกำลัง ในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”

 

22/04/2014 10:48

 

 

0Shares