หากล้มลง… ก็ล้มในพระหัตถ์พระเจ้า

By | 2014/02/27

มีหลายเรื่องราวที่ไม่สามารถตอบทุกคำถามได้ในทันที นั่นไม่ใช่เพราะไม่มีคำตอบ แต่เพราะน้ำหนักของคำตอบยังไม่ถูกพิสูจน์จนเป็นที่ยอมรับต่างหาก การจะพูดอะไรออกไปจึงแทบไม่เป็นผล สู้ทนนิ่งเงียบและใช้เวลาพิสูจน์ผลเสียจะดีกว่า…

 

การจะเริ่มต้นทำในสิ่งที่เป็นตัวของเราเองตามการทรงเรียกที่เฉพาะเจาะจงนั้น ย่อมมีความแตกต่างและแปลกประหลาดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะถ้าการทรงเรียกนั้นๆ ที่มาถึงเรามีคนจำนวนน้อยที่มีประสบการณ์ด้วย เพราะบางของประทาน บางการทรงเรียกก็เป็นแบบมวลชน คือ คนหมู่มากทำกัน เช่นทีมนมัสการ นักประกาศ หรืออะไรก็ตาม แต่จะมีบางคนเท่านั้นที่พระจ้าเรียกเป็นพิเศษที่คนจำนวนน้อยเหลือเกินที่ถูกเรียกเช่นนี้ แน่นอนการมีตัวชี้วัดก็เป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้พลาดจากกรอบหลักการของพระเจ้า นอกจากวัดเทียบด้วยพระคัมภีร์แล้ว บุคคลในพระคัมภีร์ก็คืออีกทางหนึ่งที่สามารถเทียบวัดได้ในด้านประสบการณ์และการทรงเรียก ของประทาน อีกทั้งคนในอดีตและปัจจุบันด้วย

 

*** เพราะแท้จริงสิ่งที่สำคัญคือ พระองค์กำลังเรียกให้เราทำสิ่งใด เรามีหน้าที่ทำเท่านั้นเอง นี่แหละที่เรียกว่า “ตอบสนองพระเจ้า”

 

อย่ากลัวที่จะผิดพลาดหรือล้มลง หากจะล้มในพระหัตถ์พระเจ้า

 

แต่แน่นอนชีวิตบนโลกย่อมต้องถูกพิสูจน์ ทองเนื้อแท้ต้องถูกพิสูจน์ ซึ่งระหว่างทางแห่งการพิสูจน์นั้น เราไม่เพียงพิสูจน์ว่าเรากำลังเดินตามการทรงเรียกอย่างแน่วแน่เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในสายตามนุษย์สักวันหนึ่ง ให้พระเกียรติเป็นของพระเจ้าในวันที่เราเสร็จสิ้นภาระกิจเท่านั้น แต่มันกำลังพิสูจน์ตัวเราเองกับพระเจ้าว่าเราจะถวายเกียรติพระองค์ได้อย่างไรเป็นการส่วนตัวแบบเป็นชีวิต ไม่เพียงเท่านั้นเรากำลังพิสูจน์พระเจ้าผู้ทรงเรียกเราด้วยว่าพระองค์เรียกเราเพื่อการนี้จริงหรือไม่ กำลังพิสูจน์ตัวเองต่อพระเจ้าด้วยว่าเรายินดีตายต่อตัวเองเพื่อสิ่งที่ทรงเรียกเราแค่ไหน เพื่อที่จะตอบสนองพระองค์เพียงใด

 

ซึ่งระหว่างทางแห่งการตอบสนองนี้ ย่อมมีทั้งการเรียนรู้ การขัดเกลา การลองถูกลองผิด การผิดพลาด การชำระและการฝึกปรือ ทุกอย่างอย่างครบรส บางครั้งดูเหมือนจะท้อแท้จนคิดได้เลยว่า เราเดินมาถูกทางหรือเปล่า? ..แต่ก็นั่นแหละเมื่อลองพิจารณาดูแล้วก็ไม่เหลือหนทางอื่นใดให้เราเดิน นอกเสียจากเดินหน้าตามเสียงที่เรียกเราแบบก้าวต่อก้าว และเสียงที่อยู่ข้างหลังเราก็ยังคงไล่กวดให้เราเขว่ได้อีกเช่นกัน หากละสายตาไปจากเบื้องหน้า…

 

บางครั้งความผิดพลาดในช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และฝึกปรือนั้นก็มักจะหลอกล่อเสมอว่ามาผิดทาง ไม่ควรเดินต่อ หรือบางครั้งมันก็ชวนให้คนที่คอยมองดูเราอยู่ คิดตัดสินได้ว่า เราพลาดแล้ว เราผิดไปแล้ว จะจากความหวังดี จากประสบการณ์ หรือจากอะไรก็ตาม… สิ่งเหล่านั้นทั้งกดดัน บั่นทอนและเป็นแรงผลักดันในเวลาเดียวกัน…

 

………………

 

วันเวลาผ่านไป สิ่งที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนก็ยังอีกมากมาย สิ่งที่พลาดก็เยอะแยะไปหมด แต่เส้นชัยก็ไม่เคยเปลี่ยนมันยังคงคอยอยู่ที่เดิม มันยังคงชัดเจนอยู่ที่เดิม และมันกลับชัดเจนมากยิ่งๆ ขึ้น…แน่นอนถึงนาทีนี้ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามบางคำถามได้อยู่ดี เพราะกระบวนการสร้างเพิ่งจะเริ่มต้นด้วยซ้ำ หลังผ่านกระบวนการพิสูจน์ความชัดเจนในการทรงเรียกมา แต่ที่แน่ๆ อย่างหนึ่งคือ หากเราเดินตามเสียงของพระเจ้า แม้เราล้มเราก็จะล้มในพระหัตถ์พระเจ้า!!!

 

*** เพราะผู้ที่เรากำลังตอบสนองและทุ่มเทอย่างที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แบบหมดตัว ก็คือพระองค์

 

*** ดังนั้นพระองค์จะไม่ปล่อยให้เราต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน

 

เฉลยธรรมบัญญัติ [31:6] จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิดอย่ากลัวหรืออย่าครั่นคร้ามเขาเลย เพราะว่าผู้ที่ไปกับท่านคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย”

 

เฉลยธรรมบัญญัติ [31:8] ผู้ที่ไปข้างหน้าคือพระเจ้า พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วย พระองค์จะไม่ทรงปล่อยท่านให้ล้มเหลวหรือทอดทิ้งท่านเสีย อย่ากลัวและอย่าขยาดเลย”

 

โยชูวา [23:14] “บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังจะเป็นไปตามทางของโลกแล้ว ท่านทุกคนได้ทราบในจิตในใจของท่านแล้วว่าไม่มีสักสิ่งเดียว ซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านสัญญาเกี่ยวกับท่านแล้วล้มเหลวไป สำเร็จหมดทุกอย่าง ไม่มีสักอย่างเดียวที่ล้มเหลว

 

1 พงศ์กษัตริย์ [8:56] “สาธุการแด่พระเจ้า ผู้ทรงพระราชทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ ตามซึ่งพระองค์ทรงสัญญาไว้ทุกประการ พระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงสัญญาทางโมเสสผู้รับใช้ของ พระองค์นั้นไม่ล้มเหลวสักคำเดียว

 

1 พงศาวดาร [28:20] แล้วดาวิดตรัสกับซาโลมอนโอรสของพระองค์ว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญและทำให้สำเร็จเถิด อย่ากลัวเลย อย่าขยาด เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้า คือพระเจ้าของข้าทรงสถิตกับเจ้า พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้เจ้าล้มเหลวหรือทอดทิ้งเจ้า จนกว่างานทั้งสิ้นสำหรับงานปรนนิบัติแห่งพระนิเวศของเจ้าจะสำเร็จ

 

หากล้มลง… ก็ล้มในพระหัตถ์พระเจ้า

แล้วจะกลัวอะไรกับการล้มลง เพราะที่ๆ เราล้มลงมันกลับปลอดภัย เพราะเราได้ล้มลงในพระหัตถ์ที่ยิ่งใหญ่ ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น แม้ว่าเราจะล้มลงกี่ครั้ง แต่พระเจ้าในชีวิตของข้าพเจ้าไม่เคยล้มเหลวเลยสักครั้งเดียว… แต่หากมากไปกว่านั้น ถ้าเราสำเร็จตามการทรงเรียกนั้นๆ นอกจากชัยชนะที่เราได้รับแล้ว การได้ถวายเกียรติพระเจ้าจะไม่ใช่เพียงเพราะความรู้ในพระคัมภีร์อีกต่อไป แต่มันเป็นประสบการณ์ของเราจริงๆ และหากผิด ก็จะลุกขึ้นใหม่และเดินต่อไปอีกครั้งในทางที่พระเจ้าต้องการในชีวิต อย่างน้อยที่สุดมันจะไม่เสียเวลาเปล่า เพราะระหว่างนี้ได้รู้จักพระเจ้ามากขึ้น และใกล้พระองค์มากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

 

 

241212

0Shares