กฎการครอบครอง

By | 2013/11/25

ปฐมกาล 2:16-17
2:16 พระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงมีพระดำรัสสั่งมนุษย์นั้นว่า “บรรดาต้นไม้ทุกอย่างในสวนเจ้ากินได้ทั้งหมด
2:17 แต่ต้นไม้แห่งความรู้ดีและรู้ชั่วเจ้าอย่ากินผลจากต้นนั้นเป็นอันขาด เพราะว่าเจ้ากินในวันใด เจ้าจะตายแน่ในวันนั้น”

ทุกสิ่งบนโลกพระเจ้าให้เราครอบครองเว้นเสียแต่ต้นไม้นั้น
ในสวนเอเดนพระประสงค์แรกที่มาพร้อมสิทธิอำนาจด้วยใจกว้างขวางที่พระเจ้ามอบให้กับเรา นั่นคือ การครอบครองทุกสิ่งบนผืนแผ่นดินโลก แม้แต่สิ่งมีชีวิตทุกชนิด อาดัมยังได้รับสิทธิในการตั้งชื่อ
2:19 พระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงปั้นบรรดาสัตว์ในท้องทุ่ง และบรรดานกในอากาศจากดิน แล้วจึงพามายังอาดัมเพื่อดูว่าเขาจะเรียกชื่อพวกมันว่าอะไร อาดัมได้เรียกชื่อบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตอย่างไร สัตว์ก็มีชื่ออย่างนั้น
แสดงว่าไม่ว่าอาดัมจะเห็นควรว่ามันจะถูกเรียกอย่างไร มันก็จะเป็นเช่นนั้น อาณาเขตการเป็นเจ้าของที่มนุษย์ได้รับคือทุกๆสิ่งบนโลก หมายถึงสิ่งใดๆก็ตามที่มีอยู่บนโลกเป็นของเราและเรามีสิทธิที่จะครอบครองทั้งสิ้น
แต่พระคัมภีร์ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น…ยังกล่าวต่อไปอีกว่าเว้นเสียแต่ต้นไม้นั้น…
2:17 แต่ต้นไม้แห่งความรู้ดีและรู้ชั่วเจ้าอย่ากินผลจากต้นนั้นเป็นอันขาด เพราะว่าเจ้ากินในวันใด เจ้าจะตายแน่ในวันนั้น”
นั่นหมายความว่าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เราไม่มีสิทธิเลย คือ สิ่งที่พระเจ้าห้ามเรานั่นเอง
2:15 พระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงนำมนุษย์ไปอยู่ในสวนเอเดนให้ดูแลและรักษาสวน

“ต้นไม้นั้น”

1.    ความบาปที่ห้ามข้องเกี่ยว
ตามพระคัมภีร์มีบาปพื้นฐานหลายสิ่งที่แจ้งให้เรารู้ โดยเฉพาะในบัญญัติ 10 ประการ
5:1 โมเสสได้เรียกคนอิสราเอลทั้งหมดเข้ามาแล้วกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “โอ คนอิสราเอลทั้งหลาย จงฟังกฎเกณฑ์และคำตัดสิน ซึ่งข้าพเจ้ากล่าวให้เข้าหูของท่านทั้งหลายในวันนี้ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เรียนรู้ รักษาไว้และกระทำตาม
5:2 พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราทรงกระทำพันธสัญญากับเราทั้งหลายที่โฮเรบ
5:3 มิใช่พระเยโฮวาห์จะทรงกระทำพันธสัญญานี้กับบรรพบุรุษของเราทั้งหลาย แต่ทรงกระทำกับเรา คือเราทั้งหลายผู้มีชีวิตอยู่ที่นี่ในวันนี้
5:4 พระเยโฮวาห์ตรัสกับท่านทั้งหลายที่ภูเขานั้นจากท่ามกลางเพลิงหน้าต่อหน้า
5:5 (ครั้งนั้นข้าพเจ้ายืนอยู่ระหว่างพระเยโฮวาห์กับท่านทั้งหลาย เพื่อจะประกาศพระวจนะของพระเยโฮวาห์แก่ท่านทั้งหลาย เพราะท่านทั้งหลายกลัวเพลิง จึงมิได้ขึ้นไปบนภูเขา) พระองค์ตรัสว่า
5:6 ‘เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ผู้ได้นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ออกจากเรือนทาส
5:7 อย่ามีพระอื่นใดนอกเหนือจากเรา
5:8 อย่าทำรูปเคารพสลักสำหรับตนเป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใด ซึ่งมีอยู่ในฟ้าเบื้องบน หรือซึ่งมีอยู่ที่แผ่นดินเบื้องล่าง หรือซึ่งมีอยู่ในน้ำใต้แผ่นดิน
5:9 อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าที่หวงแหน ให้โทษเพราะความชั่วช้าของบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราจนถึงสาม ชั่วสี่ชั่วอายุคน
5:10 แต่แสดงความเมตตาต่อคนที่รักเรา และรักษาบัญญัติของเรา จนถึงพันชั่วอายุคน
5:11 อย่าออกพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าอย่างไร้ประโยชน์ เพราะผู้ที่ออกพระนามพระองค์อย่างไร้ประโยชน์นั้น พระเยโฮวาห์จะทรงถือว่าไม่มีโทษก็หามิได้
5:12 จงถือวันสะบาโต ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาไว้แก่เจ้า
5:13 จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าหกวัน
5:14 แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นอย่ากระทำการงานใดๆ ไม่ว่าเจ้าเอง หรือบุตรชาย บุตรสาวของเจ้า หรือทาสทาสีของเจ้า หรือวัวของเจ้า หรือลาของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า เพื่อทาสทาสีของเจ้าจะได้หยุดพักอย่างเจ้า
5:15 จงระลึกว่าเจ้าเคยเป็นทาสอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้พาเจ้าออกมาจากที่นั่นด้วยพระหัตถ์อันทรง ฤทธิ์ และด้วยพระกรที่เหยียดออก เหตุฉะนี้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าได้ทรงบัญชาให้เจ้ารักษาวันสะบาโต
5:16 จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้า ดังที่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงบัญชาเจ้าไว้ เพื่อเจ้าจะมีชีวิตยืนนาน และเจ้าจะไปดีมาดีในแผ่นดินซึ่งพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าประทานให้แก่เจ้า
5:17 อย่าฆ่าคน
5:18 อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา
5:19 อย่าลักทรัพย์
5:20 อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
5:21 อย่าอยากได้ภรรยาของเพื่อนบ้าน และอย่าโลภครัวเรือนของเพื่อนบ้าน คือไร่นาของเขา หรือทาสทาสีของเขา หรือวัว ลาของเขา หรือสิ่งใดๆซึ่งเป็นของของเพื่อนบ้าน’
5:22 พระวจนะเหล่านี้พระเยโฮวาห์ได้ตรัสแก่ชุมนุมชนทั้งปวงของท่านที่ภูเขา ออกมาจากท่ามกลางเพลิง เมฆและความมืดคลุ้มหนาทึบ ด้วยพระสุรเสียงอันดัง และมิได้ทรงเพิ่มเติมสิ่งใดอีก และพระองค์ทรงจารึกไว้บนแผ่นศิลาสองแผ่นและประทานแก่ข้าพเจ้า

2.    สิ่งที่พระเจ้าตรัสกับเราเองเป็นการส่วนตัว
แน่นอนว่าเราแต่ละคนมีของประทานและการทรงเรียกแตกต่างกันออกไป หากเปรียบชีวิตของเราเหมือนสวนเอเดน ความสมบูรณ์อยู่ในเราแต่ละคน การทรงสร้าง สิทธิอำนาจ การครอบครอง ดังนั้นเราแต่ละคนย่อมมีต้นไม้นั้นอยู่ในชีวิตเช่นเดียวกัน ข้อห้ามของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีการทรงเรียกเฉพาะด้านพิเศษเจาะจง เช่น ผู้เผยวจนะ ผู้นำนมัสการ ปุโรหิต หรืออื่นๆอีกมากมาย…

แท้จริงนอกเหนือจากต้นไม้นั้น เราได้รับอิสระเสรีภาพที่จะครอบครองอย่างสมบูรณ์โดยแท้ จะเป็นการดีที่สุดที่เราจะไม่ข้องเกี่ยวกับมันเลย แต่ความจริงอีกข้อหนึ่งคือ พระเจ้าก็ได้วางต้นไม้นั้นไว้ในสวนเอเดน ในสวนเดียวกันกับทุกสิ่งที่เราครอบครองได้ ในพื้นที่เดียวกันกับสารพัดสิ่งที่พระเจ้าอนุญาตและมอบไว้ในมือของเรา นั่นเพราะมันจะเป็นตัวเช็คสถานะความเชื่อฟังของเรากับพระเจ้า ดังนั้นแม้เราเพลิดเพลินกับการครอบครองก็ต้องไม่ลืมคำนึงและระมัดระวังตัวเองเสมอว่าพระเจ้าให้สิทธิกับเราแค่ไหน ขอบเขตของเราอยู่ภายใต้การเชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเพียงใด

มนุษย์มักถูกมารหลอกลวง 2 ด้าน คือ

1.    ไม่มีสิทธิครอบครองสิ่งใดๆเลย
หากเราตกหลุมมารในข้อนี้ เราจะคิดว่าเราเป็นผู้น้อยที่ไม่ได้รับอะไรเลยจากพระเจ้า พระคุณนั้นแสนแห้งแล้งเหลือเกิน มีถึงเราช่างน้อยนิด อยากมีอยากได้อะไรก็บาปไปหมด ทุกสิ่งล้วนเป็นของต้องห้าม อยู่อย่างยากจนข้นแค้นแสนลำเค็ญ

2.    ครอบครองเกินสิทธิของตนเอง
หากเราตกหลุมมารในข้อนี้ เราจะไม่สนใจเลยว่าพระเจ้าคิดอย่างไร อะไรบ้างที่จะเป็นการรักษาความสัมพันธ์และสานต่อให้ลึกยิ่งๆขึ้น ตอดเล็กตอดน้อยและมองไม่เห็นถึงความผิด เชื่อฟังบ้างเป็นบางครา แต่หากขัดกับความต้องการของตัวเองการเชื่อฟังก็ดูเป็นเรื่องไร้สาระเพราะอ้างว่าเรามีสิทธิในการครอบครองทุกสิ่ง เลยเถิดจนกระทั่งไม่ว่าจะบาปหรือการเรียกร้องจากพระเจ้าก็ไม่เป็นผลอันใด ใช้ชีวิตแบบเป็นนายตัวเองเพียงอาศัยพระคุณพระเจ้าที่จะดื่มกิน แต่หารู้ไม่ว่าได้ตายไปจากสวนเอเดนแห่งความสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลงเหลือแต่กำลังของตนเองเท่านั้นที่จะได้รับ แทนที่พระคุณที่ได้รับแต่ดั้งเดิม คราวนี้ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนไขว่คว้ามา แทนการครอบครองและได้รับโดยพระคุณหรือการมีอยู่ เช่น ต้องดิ้นรนหาเงินเพื่อจะซื้อของที่ต้องการ แทนการอวยพรจากที่มอบพระเจ้าให้กับเรา
3:23 เหตุฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าจึงทรงให้เขาออกไปจากสวนเอเดน เพื่อทำไร่ไถนาจากที่ดินที่เขากำเนิดมานั้น

ดังนี้แหละ คือ การรื้อฟื้น เอเดนในชีวิตของเรา!!!

040213

0Shares