ดุลยภาพของพระเจ้า

By | 2016/09/01

พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งต่างๆ และสร้างสิ่งต่างๆ อย่างสมบูรณ์ พร้อมสรรพ ไม่มีสักส่วนหนึ่งส่วนใดที่ขาดตกบกพร่อง แม้ในความไม่สมบูรณ์ของแต่ละสิ่ง แต่เมื่อมารวมกันจะสมบูรณ์อย่างลงตัว

ตัวอย่างเช่น

เรื่องของคนจน พระเจ้าก็ให้คนมีมากกว่า มีใจเมตตาในการช่วยเหลือและมอบให้ อีกทั้งพระคุณของพระเจ้าจะมีถึงเขา ในเรื่องของการเลี้ยงดูอย่างไม่ขาดสาย

เรื่องของผู้นำ ย่อมมีผู้ตามและมีการสนับสนุนในหลายๆ ด้าน มีศิษยาภิบาล ย่อมมีทีมอธิษฐาน มีเบื้องหน้าย่อมมีเบื้องหลัง มีแนวรบย่อมมีแนวรับ

เหตุที่มนุษย์ไม่ได้ทำตามที่พระเจ้าวางไว้อย่างแท้จริง จึงมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เหมือนดั่งเชือกที่เป็นปมไม่ถูกแก้ ยิ่งแย่ตามวิถีของตนเอง ยิ่งเป็นการผูกปมมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายต้องพึ่งฝีพระหัตถ์พระเจ้าเท่านั้น

เหตุไฉน? จึงไม่เริ่มต้นด้วยการพึ่งพาพระเจ้าเสียแต่ต้น ด้วยการเชื่อฟัง

และอีกหลายครั้งที่มนุษย์นั้นพยายามจะให้ทุกสิ่งเป็นไปตามแผนการและความคิดของตนเอง รวมถึงการบังคับ ควบคุม ด้วยการดิ้นรนให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่ตนเองคาดหวังไว้ … มิหนำซ้ำ บ้างก็อ้างพระเจ้า บ้างก็คิดว่าสิ่งนี้เป็นการทำเพื่อพระเจ้า

ซึ่งในความเป็นจริง ตรวจสอบไม่ยากเลย นั่นคือ พระวจนะของพระเจ้าและสันติสุขที่อยู่ภายในตน

เมื่อเราเดินตามพระเจ้าอย่างแท้จริง สันติสุขจะครอบครองเรา พระพรจะค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามา แม้ว่าท่ามกลางอุปสรรคหรือปัญหา รวมถึงสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คิดหวังไว้ แต่ภายในใจจะสัมผัสสันติสุขจากพระเจ้า จะมีความมั่นคงและมั่นใจ ในแต่ละย่างก้าว จะเห็นพระพรเป็นที่รองรับ ในทุกๆ ก้าวที่เดินไป

ในทางตรงกันข้าม หากสิ่งนั้นไม่ได้มาจากพระเจ้า ต่อให้อ้างพระเจ้า ความสุขก็ไม่ได้เกิดขึ้น เมื่อมีปัญหาหรืออุปสรรคก็พร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ออกมาในเชิงลบ จะรู้สึกย่ำแย่ จะโดดเดี่ยวเมื่อไม่มีใครเคียงข้าง หรืออยู่ข้างตนเอง

 

ดุลยภาพของพระเจ้า

1.    เรามีหน้าที่แค่เชื่อฟังและเดินตามในส่วนของเราเท่านั้น อย่าดิ้นรนคิดทำในส่วนของผู้อื่น ให้วุ่นวาย

2.    แต่ละส่วนจะบรรจบกันอย่างลงตัว เพราะว่าพระเจ้าทรงจัดเตรียมและจัดวางไว้อย่างดี หากเราทุกคนที่เป็นผู้เชื่อเดินตามพระคำ ทำตามในส่วนของตน ย่อมจะเห็นการเปิดเผยของพระเจ้าอย่างเป็นระบบระเบียบที่สมบูรณ์จากพระกาย

3.    ปัญหาส่วนใหญ่บนโลกนี้ เกิดจากการที่มนุษย์ไม่ได้ทำส่วนของตน แต่พยายามจะบังคับและควบคุมส่วนที่ไม่ใช่ของตน ให้เป็นไปตามที่ตนเองคิดแต่ฝ่ายเดียว … ซึ่งมนุษย์มีความบกพร่อง มีความล้มเหลว และไม่มีความสามารถที่บรรจบอย่างลงตัวในตนเองเพียงฝ่ายเดียว… จึงเกิดความล้มเหลวทั้งระบบเกิดขึ้น ไม่เพียงแค่ตนเองลำพังที่ต้องรับผลเสีย แต่ผลเสียจะส่งถึงองค์รวมด้วย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นในภาพคริสตจักรด้วยเช่นกัน

4.    พระเจ้าจะทรงรับรองในสิ่งที่ทรงตั้งไว้เป็นแน่นอน แม้ดูเหมือนว่ามองไม่เป็นรูปเป็นร่าง ไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังเป็นไป นั่นเป็นเพราะว่า เรามองเห็นเพียงแค่มุมเดียว ด้านเดียว … จงอย่าพยายามดิ้นรนเพื่อควบคุมหรือแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่ไม่ใช่ส่วนของตน แต่ปล่อยให้เป็นบทบาทและหน้าที่ของพระเจ้า ส่วนของตนนั้นเพียงแค่เชื่อฟัง และนั่งรอดูการสำแดงและการทำงานของพระเจ้า และรอพระพรเทลงมาในเวลาของพระองค์

5.    เราต้องยอมรับความจำกัดของตนเองและของมนุษย์ ว่า … เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ เทียบไม่ได้เลยกับพระเจ้า ยิ่งเทียบไม่ได้เลยกับความสัพพัญญูของพระองค์ พระเจ้าสร้างแผ่นดินโลกและจักรวาล มนุษย์เป็นเพียงแค่ผงคลีอันแสนเล็กน้อย สมองของเราเป็นแค่ส่วนเล็กๆ ของร่างกาย ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงใหญ่ยิ่งเกินกว่าจะบรรยายได้… เมื่อเราเชื่อและเข้าใจดังนี้แล้ว การเชื่อฟังและทำตามพระเจ้า ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป รวมถึงการยอมปล่อยให้พระเจ้าทำงานในส่วนของพระองค์ ไม่ว่าจะผ่านเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือบุคคลใดๆ ก็ตาม เพราะนั่นพระเจ้าจะทรงควบคุมไว้ในพระหัตถ์ที่ยุติธรรมเป็นแน่นอน

 


2016-04-23

 

 

0Shares